อุทยานแห่งชาติภูเรือ
พื้นที่ป่าภูเรือประกอบด้วยทิวเขาสูง สลับซับซ้อนเรียงรายเป็นรูปต่างๆ น่าพิศวงสลับกับที่ราบเป็นบางส่วน สาเหตุที่ขนานนามว่า“ภูเรือ” เพราะมีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขามีลักษณะคล้ายท้องเรือ ตลอดจนมีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม
ในปี พ.ศ. 2519 อธิบดีกรมป่าไม้ เดินทางมาราชการที่จังหวัดเลย นายสุจินต์ เพชรดี ปลัดจังหวัดเลย ได้ให้ความเห็นว่า ควรส่งเสริมป่าภูเรือให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด จึงให้ทางอำเภอภูเรือไปสำรวจพื้นที่ พบว่าพื้นที่ป่าภูเรือมีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามสำคัญหลายแห่ง เช่น ป่าไม้ น้ำตก ทิวทัศน์ เหมาะที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติได้
ในการประชุมของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2521 มีมติเห็นชอบให้กำหนดพื้นที่ป่าภูเรือเป็นอุทยานแห่งชาติ และต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูเรือ ในท้องที่ตำบลอาฮี ตำบลท่าลี่ อำเภอท่าลี่ และตำบลลาดค่าง ตำบลหนองบัว ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2522
ลานสาวเอ้
มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้ากว้าง สลับกับป่าเต็งรัง เป็นจุดที่สามารถชมทัศนียภาพได้กว้างไกลของพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเรือได้อีกด้วย บริเวณนี้ทางอุทยานแห่งชาติภูเรือได้จัดสร้างศาลาพักผ่อนไว้ให้นักท่องเที่ยวสามารถพักชมวิวเมื่อเวลาเดินมาถึงบริเวณลานสาวเอ้
สวนหินพาลี
เป็นลานหินกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยก้อนหินรูปทรงแปลกตาตั้งอยู่เรียงราย บางก้อนคล้ายเสาหินสูง บางก้อนคล้ายดอกเห็ด สวนหินพาลีอยู่ใกล้บริเวณลานกางเต็นท์
ผาซำทอง
ผาซำทอง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ผากุหลาบขาว เป็นหน้าผาสูงชันและเป็นแหล่งน้ำซับ ประกอบกับมีไลเคนที่มีสีเหลืองคล้ายสีทอง ซึ่งเรียกว่า “ผาซำทอง” เป็นจุดชมทิวทัศน์อีกจุดหนึ่ง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติตามเส้นทางที่จะไปผาโหล่นน้อยประมาณ 2.5 กิโลเมตร และเป็นแหล่งชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกที่หนึ่ง
ผาโหล่นน้อย
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สามารถมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่งและทะเลภูเขา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 3 กิโลเมตร
เป็นจุดที่สูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติ อยู่สูงประมาณ 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นหน้าผาสูงชัน พื้นที่โดยรอบปกคลุมด้วยป่าสนเขา ทั้งสนสองใบและสนสามใบ สลับกับลานหินธรรมชาติ ต้องเดินขึ้นเขาจากผาโหล่นน้อยมาประมาณ 700 เมตร จากจุดนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามได้รอบด้านกระทั่งเห็นแม่น้ำเหือง และแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นพรมแดนไทย – ลาว
น้ำตกห้วยเตย
เป็นน้ำตกขนาดเล็กมีลักษณะเป็นลำน้ำสองสายมาบรรจบกัน แล้วไหลลงสู่แอ่งน้ำเดียวกัน แต่จะมีความสวยงามในเฉพาะหน้าฝนเท่านั้นเพราะมีปริมาณน้ำมาก อยู่ใกล้กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ 2 (ภูสน)
น้ำตกห้วยไผ่
เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูงประมาณ 30 เมตร ตั้งอยู่บริเวณลำห้วยไผ่ ในฤดูฝนปริมาณน้ำจะมาก จะมีสายน้ำที่ใสสะอาดพุ่งแรงลงมาจากบริเวณเป็นลำน้ำสายเดียวลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง ซึ่งแอ่งนี้สามารถที่จะลงเล่นน้ำได้ แต่ถ้าเป็นฤดูแล้งปริมาณน้ำจะน้อยแต่จะเห็นสายน้ำไหลลงสู่แอ่งน้ำข้างล่างเช่นกันและมีลักษณะของความสวยงามที่แตกต่างกัน น้ำตกห้วยไผ่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 2,000 เมตร เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญในการใช้ทำน้ำประปาในอำเภอภูเรือ
น้ำตกหินสามชั้น
เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ลักษณะของตัวน้ำตกเป็นชั้นหินลดหลั่นกันไป 3 ชั้น จนถึงตัวแอ่งน้ำด้านล่าง น้ำตกหินสามชั้นสามารถลงเล่นได้ โดยตั้งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ 2 (ภูสน) ประมาณ 300 เมตร ในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำมากทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่ง ในช่วงที่มีหมอกปกคลุมจะทำให้สวยงามไปอีกแบบ
อุทยานแห่งชาติยังมีจุดเด่นที่สวยงามอีกหลายแห่ง เช่น ลาดหินแตก หินวัวนอน หินพระศิวะ สวนหินเต่า ศาลารับเสด็จ ลาดเหมือนแอ ทุ่งหินเหล็กไฟ น้ำตกแก่งสุข และสระสวรรค์ ตามตำนานรักภูทุ่ง (ภูเรือ) และภูครั่ง เป็นต้น
อุทยานแห่งชาติภูเรือ
ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย 42160
โทรศัพท์: 042-807-624, 042-807-625, 042-801-716
โทรสาร: 042-899-320
อีเมล์: phuruea_np8@hotmail.com
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ
โทรศัพท์: 02-562-0760
สิ่งอำนวยความสะดวก
อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมบ้านพัก สถานที่กางเต็นท์ และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 200 คน
รายละเอียดเข้าไปดูที่
เว็บของกรม เลือกเมนูลิงค์ ที่พัก-บริการ และเมนูลิงค์ สิ่งอำนวยความสะดวก
ติดต่อจองที่พักของทางอุทยานแห่งชาติ
สามารถจองที่พักได้ด้วยตนเองผ่านทางอินเตอร์เน็ตที่เว็บไซต์ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
นอกจากนี้ยังมีโรงแรมรีสอร์ทเอกชนหลายแห่งที่ตั้งอยู่โดยรอบเขตอุทยานแห่งชาติภูเรือ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักได้ตามความต้องการ