วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

iOS 7 เพิ่มขนาดแอพที่ดาวน์โหลดผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เป็น 100MB

iOS 7 เพิ่มขนาดแอพที่ดาวน์โหลดผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เป็น 100MB

iOS 7
ปกติแอปเปิลจะจำกัดการดาวน์โหลดแอพผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไว้ที่ขนาด หนึ่ง เพื่อกันผู้ใช้ดาวน์โหลดแอพที่มีขนาดไฟล์ใหญ่เกินไปผ่านเครือข่ายและทำให้แพ คเกจหมดลงเร็ว โดยก่อนหน้า แอปเปิลจำกัดขนาดไว้ที่ 20MB ต่อแอพ หลังจากเปิดตัว iPad รุ่นที่ 3 แอปเปิลก็ขยายขนาดให้เป็น 50MB ต่อแอพ และตอนนี้ แอปเปิลได้ขยายเป็น 100MB แล้วบน iOS 7
ดังนั้นนักพัฒนาก็น่าจะหายใจโล่งขึ้นบ้าง เพราะการจะทำแอพบน iOS ให้ดาวน์โหลดผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ได้ก็เป็นโอกาสทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้า ดาวน์โหลดแอพได้มากขึ้นเช่นกัน

Tim Cook ไม่หวั่นสงครามมือถือ บอกแอปเปิลไม่สนใจตลาด “ขยะ”

Apple
นิตยสาร Businessweek จับสามผู้บริหารแอปเปิลอันได้แก่ ซีอีโอ Tim Cook, หัวหน้าฝ่ายออกแบบ Jonathan Ive และหัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ Craig Federighi มาให้สัมภาษณ์ถึงยุทธศาสตร์การแข่งขันในอนาคตของแอปเปิล (บทความเดียวกับข่าวนี้ แต่มีประเด็นอื่นๆ อีกเยอะ)ประเด็นสำคัญคงเป็นยุทธศาสตร์ของแอปเปิลว่าจะทำอย่างไรในสมรภูมิมือถือ ที่แข่งกันรุนแรง และราคาสินค้าก็ลดลงเรื่อยๆ ซึ่ง Cook ตอบประเด็นนี้อย่างใจเย็นว่าเขาผ่านสถานการณ์ลักษณะเดียวกันนี้มามาก สินค้าทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นพีซี แท็บเล็ต เครื่องเล่นวิดีโอ-ดีวีดี ต่างก็มีลักษณะเดียวกันนี้คือเจอสินค้าราคาถูกมาตีตลาด
Cook บอกว่าในตลาดใดๆ จะมีส่วนที่เป็น “ขยะ” ก้อนใหญ่อยู่เสมอ (There’s always a large junk part of the market) และแอปเปิลไม่เคยสนใจธุรกิจส่วนนี้
สิ่งที่แอปเปิลสนใจคือตลาดระดับบน คนที่ต้องการสินค้าที่ทำงานช่วยพวกเขาได้มาก และแอปเปิลจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อชิงตลาดนี้มาให้ได้ ในขณะที่เขาไม่เคยกังวลถึงตลาดระดับอื่นๆ เลย เพราะไม่ใช่แนวทางของแอปเปิลนั่นเอง
Cook ยังให้ความเห็นว่าทั้งตลาดบนและตลาดล่างมีขนาดใหญ่มากทั้งคู่ ทำให้แอปเปิลสามารถสร้างฐานลูกค้าขนาดใหญ่จากกลุ่มคนที่สนใจและให้ความสำคัญ กับประสบการณ์การใช้งานเป็นหลัก เขายืนยันว่าแอปเปิลไม่เคยมีเป้าหมายในการขายมือถือราคาถูก แต่เป้าหมายของบริษัทคือขายมือถือที่ยอดเยี่ยม ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม และพยายามหาวิธีผลิตมันในราคาต่ำลง
เขาบอกว่าโลกเราตอนนี้มีระบบปฏิบัติการสองขั้วชัดเจน แต่ความพึงพอใจของลูกค้าต่อ iOS ยังเหนือกว่า และเขาก็ยกสถิติว่า iOS มีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มคนท่องเว็บเหนือกว่า และรายได้จาก App Store ก็สูงกว่า ส่วน Android มีปัญหาเรื่องการอัพเดตเวอร์ชัน (Cook บอกว่าเหมือนตอนนี้เขายังใช้ iOS 3 อยู่ ซึ่งเขาจินตนาการไม่ออกแล้วว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร)
Cook ปฏิเสธว่าสถานการณ์ระหว่าง Android vs iPhone นั้นต่างจาก Windows vs Mac ในอดีต เพราะอย่างน้อยไมโครซอฟท์ก็ทำให้ Windows เหมือนกันเสมอ ไม่มีปัญหาเรื่อง fork และระดับของ fragmentation ก็ไม่เยอะเท่า Android ในปัจจุบันด้วย
ในบทสัมภาษณ์ยังพูดถึงการทำงานร่วมกันของ Ive กับ Federighi รวมถึงภาพหล่อๆ ของผู้บริหารสูงสุดของแอปเปิลทั้งสามคน
Ive และ Federighi ทำงานร่วมกันมานานแล้ว และโต๊ะทำงานของทั้งสองก็อยู่ใกล้ๆ กัน ช่วยให้การประสานงานเกิดขึ้นได้ง่าย แถมทั้งสองคนก็พูดจาภาษาเดียวกันคือเน้น usability และ simplicity เป็นสำคัญ
Ive ให้สัมภาษณ์ว่าออกแบบเครื่องสแกนนิ้วของ iPhone 5s โดยมองที่ไอเดียใหญ่ (big idea) แล้วค่อยๆ แก้ปัญหาหลายอย่างที่ทำให้ไอเดียนั้นไม่สามารถเกิดได้จริง เขาเทียบวิธีการทำงาน (กับคู่แข่งที่ไม่เอ่ยนาม) ว่าแอปเปิลไม่ได้เริ่มจากการคิดเทคโนโลยี 10 อย่างที่ควรจะเพิ่มเข้ามาเป็นจุดขายของผลิตภัณฑ์ให้ดูยาวๆ หรอกนะ ส่วน Federighi ก็เสริมว่า การคิดของใหม่น่ะไม่ยาก อันที่ยากคือของที่เหมาะสม (New is easy. Right is hard.)
ผู้สัมภาษณ์บทความนี้แสดงความเห็นว่าการทำงานร่วมกันอย่างกลมเกลียวของ ทั้งสองจำเป็นต่อแอปเปิลมากๆ ในยามที่ตลาดแข่งขันรุนแรง และถ้าปล่อยให้มีการเมืองในบริษัท (หมายถึง Scott Forstall) ก็คงจะทำให้แอปเปิลมีปัญหามากยิ่งขึ้น

เปรียบเทียบภาพถ่าย G2 13 ล้านพิกเซลปะทะ Lumia 1020 38 ล้านพิกเซล

เปรียบเทียบภาพถ่าย G2 13 ล้านพิกเซลปะทะ Lumia 1020 38 ล้านพิกเซล

Nokia
เมื่อวานนี้บริษัท แอลจี อิเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานดินเนอร์เล็กๆ เพื่อแนะนำ LG G2 อย่างเป็นทางการ ทีนี้ในสไลด์ที่ LG ได้เปิดให้ผมดู เขาอธิบายเรื่องกล้องไว้ยาวพอสมควร งานนี้ก็เลยปิ๊งไอเดียสานต่อศึกประชันกล้องระหว่างตัวเทพฝั่งแอนดรอยด์ กับตัวเทพฝั่ง Windows Phone ซะเลยครับก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า LG G2 เคยโฆษณาเรื่องกล้องไว้เยอะพอสมควร สเปคกล้องคร่าวๆ ก็คือมีความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล แต่มีระบบ Realtime OIS ที่ช่วยลดอาการสั่นไหวของภาพ ผลก็คือภาพจาก G2 จะมีความชัดที่เพิ่มขึ้นจาก Optimus G และ Optimus G Pro อยู่มาก แต่สำหรับตัวเทพฝั่ง Windows Phone ผมคงไม่พูดมากเพราะหลายๆ คนในที่นี้ คงทราบความสุดยอดของมันมาแล้วนะครับ
แต่ละภาพผมถ่ายจากจุดยืนเดียวกัน มุมกล้องเหมือนกัน ถ้าจะต่าง ก็มีเพียงอย่างเดียวคือความกว้างของเลนส์กับสภาพแสงในขณะนั้น เพราะอย่างที่รู้กัน วันนี้ (20 กันยายน) ฝนตกทั่วกรุงเทพฯ ทั้งวันครับ T__T สภาพแสงเลยไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่ครับ ก็เลยขอชดเชยด้วยภาพในอาคารก็แล้วกัน
แต่ละรูป กดเข้าไปดูภาพเต็มความละเอียดได้ใน flickr นะครับ
G2
CAM00004
Lumia 1020
WP_20130920_10_25_27_Pro__highres
G2
CAM00005
Lumia 1020
WP_20130920_10_26_51_Pro__highres
G2
CAM00008
Lumia 1020
WP_20130920_13_49_47_Pro__highres
G2
CAM00009
Lumia 1020
WP_20130920_14_03_42_Pro__highres
G2
CAM00010
Lumia 1020
WP_20130920_14_07_59_Pro__highres
G2 (พื้นหลังรูปนี้ จริงๆ เป็นสีดำ แต่ไฟ LED สาดลงมาเลยกลายเป็นสีน้ำเงิน)
CAM00011
Lumia 1020
WP_20130920_14_09_22_Pro__highres
G2
CAM00013
Lumia 1020
WP_20130920_14_15_22_Pro__highres

BlackBerry จะปลดพนักงาน 4,500 คน เตรียมลาตลาดคอนซูเมอร์

BlackBerry จะปลดพนักงาน 4,500 คน เตรียมลาตลาดคอนซูเมอร์

BlackBerry
BlackBerry แถลงข่าวผลประกอบการไตรมาสที่สองล่วงหน้าประมาณหนึ่งอาทิตย์ โดยขาดทุนเกือบพันล้านเหรียญในไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเตรียมปลดพนักงานประมาณ 4,500 คน และจะเปลี่ยนทิศทางของบริษัท โดยเน้นไปยังตลาดระดับองค์กรและโปรซูเมอร์ ซึ่งคือกลุ่มลูกค้าที่เคยเป็นหัวใจหลักของ BlackBerry
โดยรายละเอียดคร่าวๆมีดังนี้ครับ
  • ผลประกอบการขาดทุนประมาณ 950-995 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าส่วนหนึ่งเกิดจาก BlackBerry Z10 ที่ค้างสต็อคจำนวนมาก (ในไตรมาสที่ผ่านมา โทรศัพท์ BlackBerry กว่า 3.7 ล้านเครื่องที่ขายไปส่วนใหญ่ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry 7)
  • จะลดจำนวนสมาร์ทโฟนออกสู่ตลาดจาก 6 รุ่น เหลือ 4 รุ่น โดยจะเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับระดับองค์กร แบ่งเป็นรุ่นระดับสูง 2 รุ่น และรุ่นเริ่มต้น 2 รุ่น
  • Thorsten Heins ซึ่งเป็น CEO ของ BlackBerry ได้ออกความเห็นต่อการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ว่า “เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยากแต่จำเป็นในการที่จะก้าวไปข้างหน้า เพื่อมากำหนดจุดยืนของบริษัทในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันเติบโตมากขึ้น เรื่อยๆ “
  • ผลประกอบการไตรมาสที่สองอย่างเป็นทางการของ BlackBerry จะออกในวันที่ 27 กันยายนนี้
โดยยังมีข่าวลือว่า BlackBerry ได้มีการจ้างบริษัท PricewaterhouseCoopers LLP มาประเมินหาผู้มีศักยภาพซื้อบริษัทฯ อีกด้วยครับ

Oppo N1 จะใช้รอม CyanogenMod?

Oppo N1 จะใช้รอม CyanogenMod?

Oppo
Oppo ปล่อยคลิปโปรโมทตัวที่ห้าของโทรศัพท์ Oppo N1 (คลิปโปรโมท 4 คลิปก่อนหน้านี้) รอบนี้สร้างความฮือฮาเพราะมี Steve Kondik เจ้าของฉายา Cyanogen และผู้ก่อตั้งโครงการ CyanogenMod โผล่มาเป็นพรีเซนเตอร์ในคลิปด้วยต้องรอดูวันที่ 23 กันยายน (จันทร์นี้) ว่า Oppo N1 จะใช้รอม CyanogenMod มาให้ตั้งแต่แรกเลยหรือไม่ และ Oppo คือบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์ที่บริษัท Cyanogen, Inc. พูดถึงหรือไม่
ข้อมูลอื่นๆ ของ Oppo N1 ที่เคยมีข่าวคือ ระบบสัมผัสหลังตัวเครื่อง, กล้อง 16MP ซูม 15 เท่าและมีระบบกันสั่น

คิดจะนั่ง คิดถึง KitKat (แถมฟรี Nexus 7)

คิดจะนั่ง คิดถึง KitKat (แถมฟรี Nexus 7)

KitKat
การจับมือกันของกูเกิลกับช็อคโกแลต KitKat ทำให้เกิดกิจกรรมทางการตลาดแบบใหม่ๆ มากมาย นอกจากแคมเปญ KitKat ลาย Android กินแล้วได้ Nexus 7 แล้ว ทาง KitKat ยังออกแคมเปญใหม่ชื่อ “Have a Seat”แคมเปญนี้ KitKat ได้ติดตั้งป้ายโฆษณาสีแดงพร้อม “ม้านั่ง” ไว้ตามจุดต่างๆ (ไม่ระบุว่าประเทศอะไรบ้าง) บนป้ายโฆษณาเขียนข้อความไว้ว่าคนที่นั่งอยู่บนม้านั่งตัวนี้ในวันเวลาที่ ระบุ จะได้รับ Nexus 7 ฟรี ที่เหลือดูกันเองในคลิปครับ
ที่มา – Blognone Android Police

Apple TV ออกอัพเดต 6.0

Apple TV ออกอัพเดต 6.0: เพิ่ม iTunes Radio, AirPlay จาก iCloud และช่องใหม่

Apple TV
แอปเปิลได้ปล่อยซอฟต์แวร์อัพเดตเวอร์ชัน 6.0 ของ Apple TV ออกมาแล้ว โดยมีฟีเจอร์ใหม่มากมาย ดังนี้
  • iTunes Radio
  • iTunes Music Store: ซื้อเพลงได้ (คาดว่าก่อนหน้านี้ Apple TV น่าจะซื้อได้เฉพาะหนัง)
  • AirPlay จาก iCloud: อนุญาตให้อุปกณ์ iOS เล่นวิดีโอจาก iTunes in the Cloud โดยให้สตรีมมาที่ Apple TV ก่อนได้
  • iCloud Photos and Videos: แทน Photo Stream
  • Podcast: ซิงค์ข้อมูล Podcast และสถานีระหว่าง Apple TV กับอุปกรณ์ iOS
  • โหมดห้องประชุม: ตั้งภาพพื้นหลังหน้าจอและข้อความได้ตามต้องการ พร้อมวิธีแนะนำการเชื่อมต่ออุปกรณ์ iOS หรือ Mac มาที่ Apple TV – Slashgear
  • เพิ่มช่องใหม่ เช่น Vevo, Weather Channel ฯลฯ
ส่วนหน้าตานั้น แอปเปิลยังไม่ได้เปลี่ยนดีไซน์ให้เป็นลักษณะแบน ๆ เหมือน iOS 7 แต่อย่างใด